การยิงประตูเป็นหัวใจสำคัญของการเล่นบาสเกตบอล ทีมใดที่ยิงประตูได้แม่นยำกว่า แม้ว่าทักษะอื่นจะอ่อนไปบ้าง ก็ยังมีทางประสบชัยชนะได้ การโยนลูกบอลออกจากมือเพื่อหมายห่วงประตูแต่ละครั้งด้วยความมั่นใจ ด้วยความหวังและมีความแม่นยำสูงเพียงใด ย่อยหมายถึงความหวังแห่งชัยชนะด้วย ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจะต้องฝึกฝนวิธียิงประตูแบบต่าง ๆ ให้ชำนาญและแม่นยำทุกระยะและทุกมุม ระยะของการยิงประตูอาจแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ คือ ใกล้ กลาง ไกล (ดังรูปที่ 7 – 1) ยิ่งใกล้มากความแม่นยำสูง แต่ตรงข้ามถ้ายิ่งไกลความแม่นยำก็ยิ่งต่ำ ดังนั้นการยิงประตูไกลควรใช้น้อยที่สุดและพยายามหาโอกาสเข้ายิงประตูไต้แป้นให้มากที่สุด การยิงประตูระยะใกล้มีโอกาสเข้าประตูถึง 80% ระยะกลาง 60% และระยะไกลเพียง 30% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกและการเล่นทีมของแต่ละบุคคลด้วย
ข้อพิจารณาสำหรับครูผู้สอนและผู้ฝึกเกี่ยวกับคุณภาพในการยิงประตูของแต่ละทีมนั้น อาจพิจารณาได้จากจำนวนครั้งของการยิงประตูทั้งหมดตลอดการซ้อม และการแข่งขัน ซึ่งสูงกว่า 50% หรือไม่ ถ้าต่ำกว่าแสดงว่าการยิงประตูของทีมนั้นยังใช้ไม่ได้ และครูผู้สอนหรือผู้ฝึกควรจดลันทึกสถิติการยิงประตูของแต่ละคนไว้ด้วย เพื่อผลในด้านการปรับปรุงต่อไป ในอดีตทีมที่สามารถยิงประตูได้ดีคือทีมของมลรัฐโอไฮโอ (Ohio State) ในการแข่งขันชิงชนะเลิศของ เอ็น ซี เอ เอ ในปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) สามารถยิงประตูได้ถึง 84% ในครึ่งเวลาแรก และ 70% ในครึ่งเวลาหลัง
ลักษณะของวิถีและมุมที่ลูกบอลเข้าห่วงประตู
เนื่องจากห่วงประตูบาสเกตบอลอยู่สูงกว่าพื้นสนามขึ้นไป 10 ฟุต (3.05 เมตร) มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 นิ้ว ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกบอล 9 นิ้ว ฉะนั้นโอกาสที่ลูกบอลเข้าห่วงประตูนั้นมี ถ้าผู้ยิงประตูปล่อยลูกบอลให้เป็นวิถีโค้ง และให้ย้อยลง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิถีการยิงประตูมีดังนี้ (ดังรูปที่ 7 – 2)
- ลูกพุ่งมากตามหมายเลข 1 โอกาสเข้าประตูมีน้อยมาก เป็นวิถีการยิงที่ไม่เหมาะ
- ลูกพุ่งปานกลางตามหมายเลข 2 ลูกบอลรวดเร็วดีและประหยัดแรงงาน
- วิถีตามหมายเลข 3 ลูกบอลโด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับการปล่อยลูกบอลช้า และเสียงแรงงานมาก
หลักการเล็งห่วงประตูสำหรับผู้ที่ฝึกใหม่ มีดังนี้ (ดังรูปที่ 7 – 3)
- ระยะมุมยิง 15 องศา ควรเล็งด้วยการอาศัยขอบห่วงประตูด้านตรงข้ามเป็นที่หมาย
- ระยะมุมยิงประมาณ 16 – 29 องศา อาจยิงโดยการเล็งห่วงประตูหรือยิงให้ลูกบอลกระทบกระดานหลังก่อนก็ได้
- ระยะมุมยิง 30 – 55 องศา ควรยิงด้วยการเล็งแป้นกระดานหลังเป็นที่หมายก่อน
- มุมยิง 56 – 90 องศาให้เล็งด้วยการอาศัยขอบห่วงประตูด้านตรงข้ามเป็นที่หมาย
หลักเบื้องต้นในการยิงประตู
- หันหน้าและมองไปทางห่วงประตู
- อยู่ในท่าการทรงตัวและสามารถเคลื่อนไหวในท่ายืนได้สะดวก ในเมื่อการเปลี่ยนจากการยิงประตูเป็นอย่างอื่น
- ตาจ้องมองเป้าหมายถึงแม้ว่าลูกจะหลุดมือแล้วก็ตาม
- ครอบครองลูกให้ดี ใช้แขนป้องกันลูก นิ้วกางออก ให้หัวแม่มือบังคับลูก
- ถ้าลังเลใจอย่ายิงประตูเป็นอันขาด
- ทุกครั้งที่ทำการยิงประตูต้องมีการติดตามลูก
ทักษะพื้นฐานการยิงประตูที่ผู้เรียนหรือผู้เล่นต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญมี 3 แบบคือ
- การยืนยิงประตู (The set shot)
- การกระโดดยิงประตู (The jump Shot)
- การวิ่งกระโดดยิงประตู (The lay – up shot)
การยืนยิงประตู (The Set Shot)
การยืนยิงประตู เหมาะมากสำหรับการยิงประตู ณ เส้นโยนโทษ เพราะเป็นการยิงโดยอิสระ ไม่มีฝ่ายป้องกัน อาจจำแนกออกได้เป็น 2 แบบ ดังนี้
- การยืนยิงประตูสองมือล่าง (The Under Hand Set Shot)
การยิงประตูด้วยวิธีนี้ ถ้าได้ฝึกจนชำนาญแล้ว นับว่าเป็นแบบที่ให้ความแม่นยำมาก ตัวอย่างเช่น บันนี เลวิทท์ (Bunny Leavitt) ได้ใช้การยิงประตูแบบนี้ทำสถิติโลก ในการยิงประตูเข้าห่วงต่อเนื่องกัน ณ เส้นโยนโทษถึง 499 คะแนน แต่มาระยะหลังนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กัน อาจเนื่องจากลักษณะท่าทางในการยิงประตูแบบนี้ ไม่สามารถถ่ายทอดลักษณะไปใช้กับการยิงประตูในระดับสูงได้ และในสภาพการเล่นจริงมีโอกาสใช้น้อยมาก
- การยืนยิงประตูเหนือศีรษะ
แบบนี้ยังแยกย่อยไปได้อีก 2 ลักษณะ คือ
2.1 การยืนยิงประตูเหนือศีรษะสองมือ
2.2 การยืนยิงประตูเหนือศีรษะมือเดียว
ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการยืนยิงประตูเหนือศีรษะมือเดียวเท่านั้น เพราะเป็นแบบที่นิยมใช้กันมากและมีความแม่นยำสูง กับทั้งยังสามารถถ่ายทอดลักษณะการยิงไปใช้กับการยิงแบบกระโดดยิงได้อีกด้วย
วิธีปฏิบัติมีดังนี้ ยืนให้เท้าขวานำเท้าซ้ายตาม (สำหรับผู้ที่ถนัดขวา) โดยห่างจากเท้าขวาไปทางด้านหลังประมาณ 12 นิ้ว และช่วงก้าวห่างกันประมาณเท่าช่วงไหล่ งอเข่าลงเล็กน้อย น้ำหนักตัวค่อนไปทางเท้านำ (เท้าขวา) ถือลูกบอลโดยใช้มือซ้ายรองรับลูกด้านล่าง มือขวาวางไว้ด้านบนเบา ๆ อย่าให้อุ้งมือถูกพื้นผิวของลูกบอล ลูกบอลอยู่ระดับคาง ตามองตรงไปยังห่วงประตู เริ่มยิงประตูด้วยการงอเข่าเล็กน้อย พร้อมกับดึงลูกบอลเข้าหาตัว ถ่ายน้ำหนักลูกบอลเข้ามาไว้ที่มือขวา ส่วนมือซ้ายประคองลูกอยู่ด้านข้างค่อนไปข้างหน้าเล็กน้อย เลื่อนลูกบอลขึ้นเหนือหน้าผากแล้วผลักลูกด้วยการเหยียดแขนและข้อมือ ตวัดปลายนิ้วลงให้ลูกบอลหมุนกับหลัง พร้อมกับเหยียดเข่าและปลายเท้าขึ้นเพื่อเพิ่มแรงส่ง สำหรับสตรี อาจใช้การกระโดดเข้าช่วยด้วย เมื่อยิงเสร็จแล้วให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวต่อไป ผู้ที่ถนัดซ้ายให้ปฏิบัติในทำนองเดียวกันกับมือขวาแต่ตรงข้าม
การกระโดดยิงประตู (The Jump Shot)
สมัยเริ่มแรกของการเล่น การกระโดดยิงประตูไม่เป็นที่นิยมกัน จนกระทั่งถึงต้นปี ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬาวัยรุ่น และส่วนมากใช้การยิงแบบกระโดดยิงประตูมือเดียว การกระโดดยิงได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะเห็นได้ว่าทุกครั้งของการแข่งขันไม่ว่าทีมที่มาจากต่างประเทศ หรือทีมในประเทศก็ตาม จะใช้วิธีกระโดดยิงประตูเป็นส่วนใหญ่ เพราะการยิงประตูแบบนี้ผู้ยิงกระโดดขึ้นไปสูงและสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ยากแก่การป้องกัน ปัจจุบันถือว่าเป็นแบบของการยิงประตูที่ให้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ตามการยิงประตูแบบนี้จะได้ผลมากก็ระยะใกล้และปานกลางเท่านั้น ระยะไกลนักไม่ค่อยได้ผล
วิธีปฏิบัติมีดังนี้ ยืนหันหน้ามองห่วงประตู วางเท้าห่างกันประมาณเท่าช่วงไหล่ งอเข่าทั้งสองลงเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าทั้งสองค่อนไปทางปลายเท้า จับลูกบอลให้อยู่ข้างหน้าลำตัวระดับไหล่ โดยมือขวาอยู่ด้านหลังและมือซ้ายอยู่บนด้านซ้ายค่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย (สำหรับผู้ถนัดขวา) เสร็จแล้วนำลูกบอลขึ้นมาที่ระดับหน้าฝาก ถ่ายน้ำหนักลูกบอลมาไว้มือขวา ส่วนมือซ้ายประคองข้อศอกชี้ตรงไปที่ห่วงประตู การงอข้อศอกมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะความใกล้ – ไกล ถ้าใกล้งอน้อย ไกลงอมาก ต่อจากนั้นให้กระโดดขึ้นในอากาศด้วยเท้าทั้งสอง ยืดตัว สายตามองดูห่วงประตูตลอดเวลา ปล่อยลูกบอลขณะตัวลอยถึงจุดสูงสุด โดยการปล่อยมือซ้ายออก พร้อมกับเหยียดแขนขวา ดีดส่งด้วยข้อมูลและปลายนิ้วมือ บังคับให้ลูกบอลหมุนกลับหลังและแขนเหยียดไปตามทิศทางของลูกบอล ลงสู่พื้นด้วยการงอเข่าย่อตัวลง ให้เท้าวางห่างกันประมาณเท่าช่วงไหล่
การกระโดดยิงประตูจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทรงตัวเป็นสิ่งสำคัญ มีผู้เล่นจำนวนมากกระโดดขึ้นไปแล้วเอนไปข้างหน้า หรือข้างหลัง หรือข้าง ๆ ซึ่งทำให้การยิงประตูขาดความแม่นยำและมักฟาวล์อยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรกระโดดขึ้นไปตรง ๆ บังคับตัวให้นิ่ง ปล่อยลูกบอลให้นิ่มนวลและฝึกยิงประตูในระยะใกล้ก่อนก็จะทำให้เกิดความแม่นยำได้ ต่อจากนั้นให้ฝึกยิงในลักษณะ 3 สถานการณ์ดังนี้
- กระโดดยิงประตูขณะยืนอยู่กับที่ในระยะต่าง ๆ กันรอบห่วงประตู
- กระโดดยิงประตูหลังจากเลี้ยงลูกบอล
- กระโดดยิงประตู หลังจากรับลูกบอลอันเนื่องจากการวิ่งตัด
การวิ่งกระโดดยิงประตู (The lay – up Shot)
การวิ่งกระโดดยิงประตู เป็นทักษะพื้นฐานที่อาจกล่าวได้ว่ายากกว่าแบบของการยิงประตูที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นวิธีการยิงที่รวดเร็ว และสามารถเข้าใกล้ห่วงประตูได้มากที่สุด ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ รวดเร็ว แม่นยำทุกมุม และทั้งมือซ้ายและมือขวา ทิศทางของการเข้ายิงประตูแบบนี้อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ทิศทาง คือ ทางตรง ประมาณ 40° (ดังรูปที่ 7 – 7) ควรเล็งที่ห่วงประตูเป็นที่หมาย ทางซ้ายและขวา ทิศทางนี้เหมาะที่สุดและง่ายที่สุด คือ 45° ตามแนวเส้นประ ควรเล็งที่กระดานด้านหลังให้สูงจากห่วงขึ้นไปประมาณ 10 – 12 นิ้ว
ลักษณะการวิ่งกระโดดยิงประตูมี 4 ลักษณะ คือ
- ยิงด้วย 2 มือ เหยียดแขนไปข้างหน้า
- ยิงด้วยมือเดียวแบบหงายมือ
- ยิงด้วยมือเดียวแบบคว่ำมือ
- ยิงด้วยลูกตวัด (hook shot)
ทั้ง 4 ลักษณะมีวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกัน ผิดกันตรงที่ลักษณะการปล่อยลูกบอลครั้งสุดท้ายว่าจะเป็นลักษณะใด ในที่นี่จะกล่าวเฉพาะการยิงประตูแบบคว่ำมือเท่านั้น เพราะเป็นแบบของการวิ่งกระโดดยิงประตูพื้นฐานสำหรับผู้เรียนและผู้ฝึกใหม่
วิธีปฏิบัติ อาจแยกเป็นจังหวะได้ดังนี้
จังหวะที่ 1 สำหรับผู้ที่ถนัดขวา ให้จับลูกบอลที่กำลังเลี้ยงมาหรือลอยมาจากการส่งให้ตกเท้าขวาพอดี
จังหวะ 2 ให้ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า
จังหวะ 3 ตั้งข่าขวาขึ้น ถีบส่งด้วยเท้าซ้ายให้ตัวลอยพร้อมกับนำลูกบอลขึ้นมาที่ระดับหน้าผาก โดยการถ่ายน้ำหนักลูกบอลมาไว้ที่มือขวา มือซ้ายประคองลูกบอล ข้อศอกขวาชี้ตรงไปยังห่วงประตู
จังหวะ 4 เมื่อตัวลอยขึ้นถึงจุดสูงสุดให้ปล่อยมือซ้ายที่ช่วยประคองลูกออก ดันลูกบอลโดยการเหยียดแขนขวา ดีดส่งด้วยข้อมือและปลายนิ้วมือ บังคับให้ลูกบอลหมุนกลับ (back spin) แขนเหยียดไปตามทิศทางของลูกบอล ลงสู่พื้นด้วยเท้าซ้ายก่อน
ข้อแนะนำสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งปีกขณะที่เป็นฝ่ายรุก
- หลักจากรับลูกบอลทุกครั้ง ตาต้องมองห่วงประตู
- ถ้าอยู่ในระยะยิงประตูของตน ให้ขึ้นยิงประตูทันทีโดยวิธีกระโดดยิง
- ถ้าผู้เล่นฝ่ายป้องกันเข้ามาประชิด ให้ทำการหลอกเสียก่อนแล้วจึงเลี้ยงหลบเข้ายิงประตูแบบวิ่งกระโดดยิง
- จากข้อ 3 เมื่อหลอกแล้วและกำลังเลี้ยงเข้าไปเพื่อจะทำประตู แต่ปรากฏว่าฝ่ายป้องกันสามารถเคลื่อนตัวและไม่เสียหลักก็ให้หยุดการเลี้ยงทันที แล้วขึ้นยิงประตูแบบกระโดดยิงประตูหรือไม่ก็ส่งลูกบอลกลับไปให้เพื่อร่วมทีม เพื่อวางแผนการเล่นใหม่ต่อไป
แบบฝึกหัดการยิงประตูเบื้องต้น
ทุกครั้งที่จะเริ่มฝึกนักเรียน ครูควรสาธิตให้นักเรียนได้เห็นภาพของการเคลื่อนไหวในการยิงประตูเสียก่อนตามแบบที่สอน แล้วจึงจะเริ่มการฝึก การสอนควรเริ่มจากการยืนยิงประตูก่อนแล้วจึงไปสอนการกระโดดยิง และวิ่งกระโดดยิงตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนหรือผู้เข้ารับการฝึกใหม่ได้ฝึกจากง่ายปายากตามหลักของการสอน
ข้อแนะนำเบื้องต้นในการฝึกยิงประตู
ก. การยืนยิงประตู (The Set Shot) ควรเริ่มจากลำดับขั้นฝึกดังนี้
แบบฝึกหัดที่ 1 ให้นักเรียนจับกันเป็นคู่ แต่ละคู่หันหน้าเข้าหากัน ห่างกันประมาณ 5 เมตร แล้วฝึกการยิงประตู ให้ถูกต้องตามทักษะเบื้องต้นดังนี้
- การวางเท้า
- การถือลูกบอล
- การถ่ายน้ำหนักของลูกบอล
- การย่อตัว
- การยิงประตู และการเหยียดแขนไปตามาทิศทางของลูกบอล
เมื่อฝึกท่าทางได้ถูกต้องแล้ว ให้แต่ละคู่ถอยหลังออกไปเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม